เมื่อมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับเซเลปแห่งวงการ.... (วงการอะไรก็ได้ที่อยากเติมให้ เราไม่ว่ากัน)
Interviewer : ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา?
cRuEL Tr@veLhOLic : ชื่อนี้มีส่วนประกอบอยู่ 2 ชื่อ ด้วยกันนะ ส่วนที่ 1 คือ "cruel" โดยใช้เป็นตัวพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่เพื่อความสวยงามส่วนตัว (ยิ้มอายๆ) ซึ่งคำนี้ถ้าเปิดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (Interviewer เอ่ออออ... พี่!!! อันนี้มันพจนานุกรมภาษาไทยรึเปล่า) ?!?
อ่อ ใช่ๆ ถ้าเราเปิดตามดิสชันนารี ไม่ว่าจะ LEXiTRON หรือ Longdo จะแปลว่า "โหดร้าย, เจ็บปวด" อะไรในแง่ไม่ดีๆ ซึ่งตรงกับนิสัยส่วนตัว ฮ่าๆๆ
ส่วนที่ 2 คือ คำว่า "Travelholic" จะเป็นการเล่นคำสองคำ เอามารวมกันเป็นความหมายใหม่ แต่ยังคงเค้าโครงของความหมายเดิมอยู่ ซึ่งถ้าเป็นภาษาไทยจะเรียกว่า "คำสมาส" (อันนี้ไม่รู้ว่าจำเป็นต้องเป็นเฉพาะภาษาบาลีและสันสกฤตรึเปล่า ถ้าท่านใดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย รบกวนมาตอบด้วย จะขอบคุณมากๆค่ะ
โดยศัพท์ที่เรานำมาคือ คำว่า travel = ท่องเที่ยว , aholic = ติด, หยุดไม่ได้ (อันนี้ไม่รู้จริงๆ ว่ารากศัพท์มาจากคำนี้รึเปล่า)
เช่น shopaholic = ผู้ที่หลงใหลการช็อปแบบหยุดไม่ได้ , alcoholic = ผู้ที่ติดสุรา ถ้าไม่ได้กินแล้วใจจะขาด
จึงเกิดเป็นคำว่า travelholic ขึ้นมา ซึ่งคือ ผู้ที่รักและหลงใหลการท่องเที่ยวแบบหยุดไม่ได้ ถ้าหยุดแล้วใจจะขาด
เมื่อเอาคำว่า cruel travelholic มารวมเข้าไว้ด้วยกันแล้ว เราก็ได้คำนิยามออกมา คือ ผู้ที่รักและหลงใหลการท่องเที่ยวตามแบบฉบับที่โหดร้ายนิดๆ สบายหน่อยๆ แบบหยุดไม่ได้ เพราะถ้าไม่ได้ไปเที่ยว (เมื่อโอกาสอำนวย) คงขาดใจ (ส่งยิ้มหวานๆ ให้กับคนสัมภาษณ์ ^______________________^)
Interviewer : แล้วสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร?
cRuEL Tr@veLhOLic : ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวในมุมต่างๆ ในรูปแบบต่างๆ ตามแบบของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว อาหาร หรือเครื่องดื่ม
Interviewer : แปลว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างนั้นหรอ?
cRuEL Tr@veLhOLic : ไม่ใช่เลย (ลากเสียงยาวด้วย) สิ่งที่จะเขียนล้วนออกมาจากความรู้สึกตัวเองทั้งนั้น ไม่มีมาตรฐานใดๆทั้งสิ้น (หรือถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือ "เชื่อไม่ได้" นั่นเอง อิอิ)
Interviewer : อ้าวว O_O แล้วจะทำมันทำไม?
cRuEL Tr@veLhOLic : ทำเพราะอยากทำ ทำเพราะอยากเก็บเรื่องราวของเราเอาไว้ จบป่ะ!!!
Interviewer : จบจ๊ะจบ
cRuEL Tr@veLhOLic : ดีมากกกกก :)